Like Father, Like Son สรุป มาพบกันเป็นประจำในทุกๆ เช้ากับการแนะนำหนังน่าดูประจำวันที่ TrueID และ TrueID+ หลากหลายอรรถรสความบันเทิงไร้ขีดจำกัดกับช่วง “Movie of the Day” ส่งท้ายสัปดาห์สิ้นเดือนนี้ด้วยหนังดราม่าครอบครัวที่ยังประทับใจผู้ชมหลายๆ คน กับหนังญี่ปุ่นฟีลกู้ดสายสัมพันธ์ในครอบครัว “Like Father, Like Son” (พ่อครับ..รักผมได้ไหม) หนังญี่ปุ่นเรื่องดังเมื่อปี 2013 ผลงานยอดเยี่ยมของผู้กำกับชั้นครูอย่าง “ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ” ที่ยังคลาสสิกไม่เปลี่ยนแปลง
Like Father, Like Son เล่าเรื่องราวของ เรียวตะ ผู้ชายญี่ปุ่นที่ได้รับทุกสิ่งที่คู่ควรจากการทำงานหนัก และเชื่อเสมอว่าครอบครัวของเขาเดินอยู่บนเส้นทางที่เพียบพร้อม เมื่อวันหนึ่งเขาและภรรยา มิโดริ ได้รับโทรศัพท์แจ้งผลตรวจเลือดจากโรงพยาบาล ผลตรวจชี้ชัดว่าลูกชายวัย 6 ขวบ เคตะ ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพวกเขา โรงพยาบาลให้เด็กผิดไป นับจากวินาทีนั้นบททดสอบบางอย่างที่จะทำให้หัวใจของคนเป็นพ่อต้องร้องไห้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ระหว่างสายเลือดของตัวเองหรือ 6 ปีที่ผูกพันมา ถ้าต้องเลือกคุณจะเลือกสิ่งไหน
ถึงจะรู้ความจริงเรื่องลูกชาย แต่ มิโดริ ก็ยังคงทุ่มเทความรักให้กับ เคตะ และพยายามติดต่อไปยังครอบครัวที่ดูแลลูกแท้ๆ ของพวกเขาในตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ต่างจากเรียวตะที่กำลังสับสนในบททดสอบครั้งนี้ เขาเริ่มตั้งคำถามอย่างจริงจังต่อตนเองว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมาเขาเป็นคุณพ่อที่ดีพอสำหรับเคตะแล้วหรือยัง แล้วถ้าวันหนึ่งพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ความผูกพันจะมีค่าพอที่จะทำให้พวกเขาไม่ลืมกันได้หรือเปล่า
หนังการันตีความดราม่าเคล้าน้ำตากับเนื้อหาที่กัดกินใจผู้ชมเป็นแน่แท้ โดยผลงานชิ้นนี้เคยได้เฉิดฉายปฐมทัศน์ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ ก่อนจะกลับไปลงโรงฉายที่ญี่ปุ่น ที่สามารถคว้ารางวัลต่างๆ ได้มากมาย ผู้กำกับ ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ ยังรับหน้าที่เขียนบทหนังเรื่องนี้เองด้วย พร้อมกับนักแสดงคุณภาพคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น “มาซาฮารุ ฟุกุยามะ”, “มาจิโกะ โอโนะ”, “โยโกะ มากิ” หรือ “คิคิ คิริน” เป็นต้น
Like Father, Like Son ถือว่าประสบความสำเร็จในด้านรายได้อีกด้วย เพราะหนังสามารถทำยอดรวมตลอดทั้งโปรแกรมฉายในญี่ปุ่นได้สูงกว่า 3.2 หมื่นล้านเยน หรือเกือบราวๆ 1 พันล้านบาท อีกทั้งยังเก็บรายได้เล็กๆ น้อยๆ จากการออกฉายแบบจำกัดในตลาดนอกประเทศญี่ปุ่นอีกหลายแห่งด้วย
คะแนนคำวิจารณ์เฉลี่ยบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ของ Like Father, Like Son ยังได้มาค่อนข้างน่าประทับใจที่ 87% โดยที่ล่าสุด “สตีเวน สปีลเบิร์ก” ได้สนใจซื้อลิขสิทธิ์หนังเรื่องนี้นำไปดัดแปลงสร้างเป็นเวอร์ชั่นฮอลลิวูด ที่เพิ่งเป็นข่าวซื้อขายกันในเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2021 ที่ผ่านมานี่เอง
- ประเภท: ดราม่า / ครอบครัว
- นำแสดงโดย: มาซาฮารุ ฟุกุยามะ, มาจิโกะ โอโนะ, โยโกะ มากิ, คิคิ คิริน
- กำกับโดย: ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ
- ความยาว: 120 นาที
- เข้าฉายครั้งแรก: 28 กันยายน 2013
เนื้อเรื่องย่อ Like Father, Like Son สรุป
Like Father, Like Son สรุป คอหนังญี่ปุ่นน่าจะจดจำความประทับใจจากฝีมือของผู้กำกับฮิโรคาซุ โคริเอดะได้เป็นอย่างดี จากผลงานเรื่องเยี่ยมอย่าง Nobody Knows, Still Walking และ I Wish ผลงานชิ้นล่าสุดของโคริเดะกลับมาพร้อมกับความละเอียดอ่อนทางอารมณ์เหมือนเช่นเคย ใน Like Father, Like Son งานที่ไปคว้ารางวัลจูรี่ไพรซ์ มาจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีล่าสุด
พล็อตว่าด้วยการสลับลูก เป็นพล็อตเก่ าโบราณคร่าครึที่เราได้ชมกันมาแล้วหลายรอบ และครั้งนี้โคริเอดะ ก็ตั้งคำถามกับมันอย่างจริงจัง ว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างความผูกพันทางสายเลือดและความผูกพันที่เกิดจากการเลี้ยงดู สองสามี ภรรยาตระกูลโนโนมิยะ อันประกอบไปด้วยเรียวตะผู้เป็น สามี และมิโดริ ผู้เป็นภรรยา เลี้ยงดูเคย์ กะลูกชายวัย 6 ขวบอย่างทะนุถนอม และเอาใจใส่ พวกเขาเพียรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อย แต่แล้วภาพฝันถึงอนาคตของลูกก็มลายหายวับไปกับตาเมื่อเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่าตอนที่มิโดริไปคลอดลูกเมื่อ 6 ปีก่อนนั้นพยาบาลได้ให้ทารกผิดคนไป และลูกที่แท้จริงของสองสามี ภรรยาโนโนมิยะ ก็อยู่กับคนอื่น! ลูกชายตัวจริงของพวกเขาตอนนี้มีชื่อว่า ริวเซย์ และมีพ่อแม่เป็นเจ้าของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าริวเซย์ ไม่ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี แบบที่เคย์ตะได้รับ สองครอบครัวพยายามใช้เหตุผลในการจัดการกับปัญหานี้นั่นก็ คือ ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จะต้องสลับลูกมาเลี้ยงดู
ตัวอย่างหนัง Like Father Like Son พ่อครับ รักผมได้ไหม
สปอยล์
หนังที่ทำให้ผมน้ำตาแตกแห่งปี เข้าใจเลย ความเป็นพ่อเป็นแม่เนอะ แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกแท้ๆแต่ก็เลี้ยงมาด้วยความรักและดูแลเอาใจใส่มาตลอด 6 ปี มันก็ย่อมจะมีความผูกพันธ์กัน ต่อให้ไม่ใช่ลูกจริงๆ ในมุมของเด็กๆก็เช่นกัน แม้เขาจะรู้ว่านี่คือพ่อแม่จริงๆของเขาแต่ว่าไม่ได้ผ่านการเลี้ยงดูมาแต่เด็ก ความผูกพันธ์มันก็ห่างเหิน แม้เด็กจะมาอยู่กับพ่อแม่จริงๆก็ต้องคิดถึงพ่อแม่ที่เคยเลี้ยงมาแน่ๆ นี่แหละที่เขาเรียกว่าความรัก มันสัมผัสได้ลึกซี้งมากมาย เราจะได้เห็นถึงความน่ารักของเด็กๆ พ่อ แม่ ครอบครัว ความสุขที่มันดูแล้วจุก น้ำตาแตก..
คะแนน 8.0/10 Like Father, Like Son สรุป